กีฬากลางแจ้ง และ กีฬาในร่ม ต่างกันอย่างไร

 

กีฬากลางแจ้งและกีฬาในร่มเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นและสนุกสนานที่ทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปพร้อม ๆ กันได้ แต่มีความแตกต่างที่น่าสังเกตในทัศนคติ สภาพแวดล้อม และประสบการณ์ทั้งหมด ในบทความนี้ เราจะสำรวจและเปรียบเทียบกีฬาทั้งสองแบบนี้

 

 

1.สภาพอากาศและสภาพแวดล้อม

กีฬากลางแจ้ง: กีฬาที่เกิดขึ้นในท้องถนนหรือพื้นที่กลางแจ้งที่ไม่มีที่หลบฝนหรือแสงแดดโดยตรง เช่น เทนนิส วอลเลย์บอล และกีฬาทางน้ำ เหมาะสำหรับกิจกรรมที่ต้องการแสงแดดและอากาศดี แต่อาจมีปัจจัยอุบัติเหตุจากสภาพอากาศที่แปรปรวน เช่น ฝนตกหรือร้อนจัด

กีฬาในร่ม: กีฬาที่เกิดขึ้นภายในอาคารหรือสถานที่ที่มีหลังคาและควบคุมสภาพอากาศ เช่น บาสเกตบอล และแบดมินตัน มักจะไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศภายนอกและเหมาะสำหรับการแข่งขันและการฝึกซ้อมที่มีความเสถียร

 

 

2.อุปกรณ์และวิธีการเล่น:

กีฬากลางแจ้ง: ต้องใช้พื้นที่กว้างขวางเพื่อให้มีที่สำหรับการเคลื่อนไหวและการแข่งขัน เช่น สนามฟุตบอล สนามเทนนิส และสนามเทควันโด และต้องมีการจัดการกับสภาพอากาศและแสงแดด

กีฬาในร่ม: มักมีพื้นที่การเล่นที่มีขนาดเล็กกว่าและมีการควบคุมที่ดีขึ้น เนื่องจากมักจะเล่นในพื้นที่ภายในหรือล้อมรอบไว้ เช่น สนามบาสเกตบอลภายในห้องพัก หรือสนามแบดมินตันภายในสโมสร การใช้หลังคาช่วยป้องกันการรบกวนจากสภาพอากาศภายนอกและสามารถปรับสภาพแวดล้อมได้ตามต้องการของการฝึกซ้อมหรือการแข่งขัน

 

 

3.ประเภทของกีฬา:

กีฬากลางแจ้ง: กีฬากลางแจ้งมักมีประเภทของกีฬาที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่กว้างขวาง และต้องการพื้นที่ใหญ่ เช่น เทนนิส ฟุตบอล และวอลเลย์บอล

กีฬาในร่ม:กีฬาในร่มมักมีลักษณะของกีฬาที่ต้องใช้พื้นที่น้อยและมักจะเป็นกีฬาที่ไม่มีการแข่งขันกลางแจ้ง เช่น บาสเกตบอล และแบดมินตัน

 

 

4.รูปแบบการแข่งขัน:

กีฬากลางแจ้ง: มักมีการแข่งขันและฝึกซ้อมในสภาพที่ไม่คงที่ เช่น การแข่งขันฟุตบอลหรือการฝึกซ้อมในสนามเทนนิส

กีฬาในร่ม: มักมีการแข่งขันและฝึกซ้อมในสภาพที่เสถียรและคงที่ เช่น การแข่งขันบาสเกตบอลหรือการฝึกแบดมินตันภายในห้องสำหรับกีฬาในร่ม